หลักสูตรนานาชาติแบบอังกฤษ (British Curriculum) และ IBDP แตกต่างกันอย่างไร และแบบไหนดีต่ออนาคตลูก?

การเลือกโรงเรียนนานาชาติ “หลักสูตรอังกฤษ” (British Curriculum) และ “หลักสูตร IB” คงเป็นสองตัวเลือกแรก ๆ ที่ผู้ปกครองหลายท่านกำลังค้นหาข้อมูลและเปรียบเทียบกันอยู่อย่างแน่นอน ซึ่งสถาบันการศึกษาชั้นนำอย่าง โรงเรียนนานาชาติ St. Andrews ดุสิตเองก็ได้ให้ความสำคัญกับการวางรากฐานการเรียนรู้ที่แข็งแกร่ง ผ่านหลักสูตรที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล บทความนี้จะพาทุกท่านไปเจาะลึกถึงความแตกต่าง ข้อดี และลักษณะเฉพาะของทั้งสองหลักสูตรแบบหมดเปลือก เพื่อเป็นแนวทางให้คุณพ่อคุณแม่สามารถตัดสินใจเลือกเส้นทางที่ “ใช่” ที่สุดสำหรับอนาคตของลูกครับ

โรงเรียนนานาชาติ St. Andrews ดุสิต

เจาะลึกหลักสูตรอังกฤษ (British Curriculum): เส้นทางสู่ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง

หลักสูตรอังกฤษ หรือ British Curriculum คือระบบการศึกษาที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล มีโครงสร้างการเรียนการสอนที่ชัดเจนและเป็นลำดับขั้นตอน ออกแบบมาเพื่อปูพื้นฐานความรู้ให้แน่นและลึกซึ้งในแต่ละสาขาวิชา ลองนึกภาพตามนะครับว่าเหมือนการสร้างตึกสูงที่ต้องมีฐานรากแข็งแกร่งเป็นพิเศษ หลักสูตรนี้จะแบ่งการเรียนรู้ออกเป็นช่วงชั้นที่เรียกว่า “Key Stages” ตั้งแต่ระดับอนุบาลไปจนถึงมัธยมศึกษาตอนต้น เพื่อให้มั่นใจว่านักเรียนได้พัฒนาทักษะและความรู้ที่จำเป็นในแต่ละช่วงวัยอย่างครบถ้วน

หลักสูตร IGCSE

เมื่อเข้าสู่ระดับมัธยมปลาย เส้นทางจะเข้มข้นขึ้น โดยนักเรียนจะได้เรียนหลักสูตร IGCSE (International General Certificate of Secondary Education) ในช่วง Year 10-11 (อายุ 14-16 ปี) ซึ่งเป็นการเรียนหลากหลายวิชาเพื่อค้นหาความชอบและความถนัดของตนเอง 

A-Levels (Advanced Levels)

จากนั้นจึงเข้าสู่ช่วงสองปีสุดท้ายที่เรียกว่า A-Levels (Advanced Levels) ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของหลักสูตรนี้เลยครับ ในระดับ A-Levels นักเรียนจะเลือกเรียนวิชาที่สนใจจริง ๆ เพียง 3-4 วิชาเท่านั้น แต่จะเป็นการเรียนแบบ “เจาะลึก” ในระดับที่เทียบเท่ากับการเรียนปีแรกในมหาวิทยาลัยเลยทีเดียว 

ซึ่งข้อดีของการเรียนแบบนี้คือ นักเรียนจะมีความรู้ความเชี่ยวชาญในสาขาที่ตัวเองเลือกเป็นอย่างดี ทำให้มีความพร้อมอย่างยิ่งสำหรับการศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยชั้นนำที่เน้นวิชาเฉพาะทาง เช่น แพทยศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ หรือนิติศาสตร์ เป็นต้นครับ

ทำความรู้จักหลักสูตร IB Diploma Programme (IBDP): สร้างนักคิดและนักสื่อสารรอบด้าน

ในอีกด้านหนึ่ง หลักสูตร IB Diploma Programme หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า IBDP ถูกออกแบบมาด้วยปรัชญาที่แตกต่างออกไปครับ โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้าง “พลเมืองโลก” (Global Citizen) ที่มีความรู้กว้างขวาง มีทักษะการคิดวิเคราะห์เชิงวิพากษ์ และสามารถเชื่อมโยงศาสตร์ความรู้ต่างๆ เข้าด้วยกันได้ หากหลักสูตรอังกฤษคือการสร้างผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง IBDP ก็เปรียบเสมือนการสร้างนักคิดและนักสื่อสารที่รอบรู้และมีมุมมองที่เปิดกว้างนั่นเองครับ

โครงสร้างของ IBDP ประกอบด้วย 3 องค์ประกอบหลักที่ทำงานร่วมกัน 

1. การเลือกเรียน 6 กลุ่มสาระวิชา

ซึ่งนักเรียนจะต้องเลือกวิชาจากหมวดต่างๆ เช่น ภาษา, สังคมศาสตร์, วิทยาศาสตร์, และคณิตศาสตร์ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ที่สมดุลและรอบด้าน 

2. องค์ประกอบแกนกลาง (DP Core)

  • Theory of Knowledge (TOK) ที่สอนให้นักเรียนตั้งคำถามและวิเคราะห์ที่มาของความรู้
  • Extended Essay (EE) หรือสารนิพนธ์ขนาดยาว ที่นักเรียนต้องทำวิจัยในหัวข้อที่ตนเองสนใจด้วยตนเอง 
  • Creativity, Activity, Service (CAS) ที่ส่งเสริมการทำกิจกรรมนอกห้องเรียนเพื่อพัฒนาตนเองอย่างรอบด้าน 

ข้อดีของหลักสูตรนี้คือการมุ่งเน้นพัฒนาทักษะที่จำเป็นสำหรับศตวรรษที่ 21 ไม่ว่าจะเป็นการคิดวิเคราะห์ การวิจัย การบริหารจัดการเวลา และการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้นักเรียนที่จบจากหลักสูตรนี้มีความพร้อมสูงในการปรับตัวเข้ากับการเรียนในระดับมหาวิทยาลัยและโลกการทำงานที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ

เลือกอย่างไรให้เหมาะกับลูก? แนวทางการพิจารณาจากโรงเรียนนานาชาติชั้นนำ

การตัดสินใจจึงควรเริ่มจากการสังเกตและทำความเข้าใจตัวตนของลูกเป็นอันดับแรก ลองพิจารณาจากคำถามเหล่านี้ดูครับ ลูกของคุณมีแนวโน้มที่จะชอบเรียนแบบเจาะลึกในวิชาที่สนใจเป็นพิเศษ หรือชอบที่จะสำรวจความเชื่อมโยงของวิชาต่างๆ ที่หลากหลาย? เขามีเป้าหมายในใจหรือยังว่าจะเรียนต่อในสาขาใด หรือกำลังอยู่ในช่วงค้นหาตัวเอง? สไตล์การเรียนรู้ของเขาเป็นแบบที่ต้องการโครงสร้างที่ชัดเจน หรือเป็นนักสำรวจที่เรียนรู้ได้ดีเมื่อมีอิสระในการค้นคว้า?

เมื่อเข้าใจธรรมชาติของลูกแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการมองหาโรงเรียนที่มีความพร้อมและเข้าใจในปรัชญาของหลักสูตรนั้นๆ อย่างแท้จริง เพราะโรงเรียนชั้นนำไม่ได้มีหน้าที่แค่ “สอน” ตามหลักสูตร แต่ต้องสามารถ “สร้าง” สภาพแวดล้อมที่เอื้อให้นักเรียนได้ดึงศักยภาพสูงสุดของตนเองออกมาได้ตามแนวทางของหลักสูตรนั้น ๆ ตัวอย่างเช่น โรงเรียนนานาชาติ St. Andrews ดุสิตที่เชี่ยวชาญหลักสูตรอังกฤษจะมีการวางเส้นทางการเรียนรู้ที่ชัดเจนตั้งแต่ระดับชั้นเล็ก ๆ เพื่อเตรียมความพร้อมนักเรียนให้มีพื้นฐานที่แข็งแกร่งสำหรับความท้าทายในระดับที่สูงขึ้นต่อไป 

สรุป

ท้ายที่สุดแล้ว ไม่มีคำตอบที่ตายตัวว่าหลักสูตรใด “ดีที่สุด” ครับผม เพราะทั้ง British Curriculum และ IBDP ต่างก็เป็นหลักสูตรคุณภาพสูงที่ได้รับการยอมรับจากมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วโลกเหมือนกัน หัวใจสำคัญจึงไม่ได้อยู่ที่การหาว่าหลักสูตรไหนดีกว่ากัน แต่อยู่ที่การทำความเข้าใจสไตล์การเรียนรู้ ความถนัด และเป้าหมายในอนาคตของลูกหลานของเราเป็นหลัก

หากลูกของคุณเป็นคนที่มีเป้าหมายชัดเจน ชอบการเรียนรู้แบบเจาะลึก และต้องการเป็นผู้เชี่ยวชาญในสาขาใดสาขาหนึ่ง หลักสูตรอังกฤษ (British Curriculum) อาจเป็นเส้นทางที่ตอบโจทย์ แต่หากลูกของคุณเป็นนักสำรวจที่ชอบเรียนรู้หลากหลายสาขาวิชา มีทักษะการคิดวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม และต้องการพัฒนาตนเองอย่างรอบด้าน หลักสูตร IBDP ก็อาจเป็นตัวเลือกที่ใช่ การตัดสินใจเลือกโรงเรียนนานาชาติที่มีความเชี่ยวชาญและสามารถส่งเสริมเส้นทางการเรียนรู้ของลูกได้อย่างเต็มศักยภาพ จึงเป็นก้าวแรกที่สำคัญที่สุดในการวางรากฐานสู่อนาคตที่ประสบความสำเร็จของพวกเขาครับ