เคล็ดลับ การเลี้ยงปลาทอง และสายพันธุ์ที่นิยมเลี้ยง

ปลาสวยงามนั้นมีอยู่ด้วยกันหลากหลายสายพันธุ์ ซึ่งปลาทองก็เป็นปลาสวยงามชนิดหนึ่งที่ผู้คนนิยมเลี้ยงไว้ที่บ้าน สำหรับการเลี้ยงปลาทองนั้นคุณจะต้องรู้เทคนิคในการเลี้ยง การให้อาหาร รวมถึงสภาพแวดล้อมที่ปลาทองชอบอยู่ ก็จะทำให้ปลาทองแข็งแรง มีภูมิคุ้มกันต่อโรค และมีสีสันที่สวยงาม

ลักษณะของปลาทอง

ปลาทองแต่ละสายพันธุ์นั้นจะมีขนาดและรูปร่างที่แตกต่างกัน บางสายพันธุ์มีรูปร่างอ้วน ป้อม แต่บางสายพันธุ์ลำตัวแบน สิ่งที่ทำให้ปลาทองแต่ละสายพันธุ์มีความแตกต่างกันคือ ครีบหาง ครีบหลัง ครีบก้น ตา ลำตัว และสีสันของตัวปลา

ปลาทอง สายพันธุ์ที่นิยมเลี้ยง

สำหรับสายพันธุ์ปลาทองนั้นมีไม่ต่ำกว่า 100 สายพันธุ์ ในส่วนของสายพันธุ์ที่นิยมนำมาเลี้ยง เช่น ปลาทองออรันดาหัววุ้น ปลาทองหัวสิงห์ลูกผสม ปลาทองหัวสิงห์ญี่ปุ่น ปลาทองริวคิน ปลาทองหัวสิงห์จีน ปลาทองเกล็ดแก้ว ปลาทองพันธุ์มัว ปลาทองตาลูกโป่ง เป็นต้น

เคล็ดลับการเลี้ยงปลาทอง มีวิธีการดังนี้

  • เพิ่มออกซิเจนในน้ำ โดยทำการติดตั้งเครื่องปั๊มลม หากเราเลี้ยงปลาไม่มาก เลี้ยง 2-5 ตัว ในภาชนะอย่าง โหลแก้ว ตู้ปลา หรือในอ่าง ที่มีขนาดใหญ่พอ ดูแล้วปลาไม่อึดอัด ก็ไม่ต้องติดตั้งเครื่องปั๊มลม แต่หากเลี้ยงจำนวนมาก ก็ควรที่จะติดตั้ง เพื่อให้น้ำมีการเคลื่อนไหว เป็นการเพิ่มออกซิเจนในน้ำ มีผลทำให้ปลาเจริญเติบโตได้ดีขึ้น
  • น้ำต้องปราศจากคลอรีน น้ำสำหรับใช้เลี้ยงปลาทองต้องเป็นน้ำที่ปราศจากคลอรีน เพราะคลอรีนจะมีผลร้ายต่อตัวปลาทอง ส่งผลให้เนื้อเยื่อตัวปลาถูกทำลาย อาจทำให้ปลาตายได้ ดังนั้นควรที่จะใช้น้ำที่ผ่านการกรอง หากคุณใช้น้ำประปาก็ให้เปิดน้ำไว้ที่ภาชนะแล้วกักน้ำไว้ประมาณ 3 วัน เพื่อให้คลอรีนระเหย แล้วค่อยนำน้ำนั้นมาเลี้ยงปลา
  • ให้อาหารเป็นเวลา ให้อาหารเช้า-เย็น กะประมาณว่าอย่าให้มากเกินไป ถ้าหากปลากินเยอะเกินก็จะทำให้ท้องอืด หรือถ้าหากอาหารเหลือ ปลากินไม่หมด ก็จะทำให้น้ำเน่าเสียได้ ซึ่งอาหารสำหรับปลาทองนั้นก็มีหลายชนิด เช่น อาหารเม็ด ไส้เดือนน้ำ หนอนแดง เป็นต้น
  • ไม่เลี้ยงปลาจำนวนมากจนแน่นตู้ หากเลี้ยงปลาจำนวนมากเกินไปในตู้ปลาเพียงตู้เดียว ปลาก็อาจจะแย่งอาหารกัน มีความเสี่ยงให้ปลาทำร้ายกันเองได้ นอกจากนี้ออกซิเจนในน้ำก็จะไม่เพียงพอ ส่งผลทำให้ปลาเครียดและตายได้
  • เมื่อน้ำสกปรก ควรเปลี่ยนถ่าย หากสังเกตได้ว่าน้ำเริ่มสกปรก มีกลิ่นคาวมากกว่าปกติ มีสิ่งปฏิกูล รวมถึงมีตะไคร่น้ำเกาะตามผนังตู้ ให้เปลี่ยนน้ำและทำความสะอาดตู้ปลา หากไม่ทำความสะอาด ตู้ปลาอาจเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรค เสี่ยงต่อปลาป่วย

การเลี้ยงปลาทองไม่ได้ยากเลยใช่ไหมล่ะ เราต้องใส่ใจดูแลในเรื่องอาหาร โดยให้อาหารเป็นเวลา และดูแลน้ำในตู้ปลาไม่ให้สกปรก ก็จะทำให้ปลาทองที่เราเลี้ยงมีภูมิคุ้มกันและมีสีสันที่สวยงามขึ้นได้